บทที่ ๗
เล่าเรื่องรามเกียรติ์

คำนำ

“เล่าเรื่องรามเกียรติ์” เกิดจากแรงจูงใจที่ผู้เขียนรู้สึกว่า  งานศิลปกรรม
โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงวัดพระแก้วนั้นแสนที่จะสวยงาม  หา
ฝีมือใดมาเปรียบได้ยาก แต่เด็กๆ เยาวชนและคนไทยทั่วไปกลับมีความอดทน  ในการเดินชมภาพจิตรกรรมกันสั้นและดูกันน้อย

ผู้เขียนเคยลองพาเด็กๆ ชมภาพจิตรกรรมพร้อมกับเล่าเรื่องไปด้วย  ปรากฏว่าเด็กๆ สนใจซักถามและตามชมกันไปได้นาน เด็กอื่นๆ เข้ามาสมทบ เพิ่มขึ้น  จึงคิดว่าการเขียนเรื่องเล่าเรื่องรามเกียรติ์อย่างย่นย่อ ให้เห็นการเคลื่อน ตัวของเรื่อง ก็จะช่วยทำให้เด็กและผู้ชมอื่นๆ  เห็นการเคลื่อนไหวของภาพและดู ภาพได้เพลิน  วัตถุประสงค์ใหญ่ในการเล่าเรื่อง คือ เพื่อจูงใจให้เกิดความสนใจใน จิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงอย่างลุ่มลึก และเพลิดเพลินใจนั่นเอง

อนึ่ง หน้าหนังสือไม่อาจรองรับภาพจิตรกรรมในทุกห้องทุกตอนได้  จึง
เลือกแต่ภาพที่สำคัญ และสามารถเชื่อมเรื่องราวรามเกียรติ์เฉพาะตอนสำคัญๆ เข้าหากัน อ่านเฉพาะเรื่องและดูเฉพาะภาพก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้พอ สังเขป และพอเล่าต่อกันฟังและชวนกันดูภาพได้อย่างไม่ขาดตอน

สมุดภาพ “เล่าเรื่องรามเกียรติ์” จากจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียง เล่มนี้ จึงสมบูรณ์ด้วยภาพที่งดงามบทกลอนที่ไพเราะ เรื่องราวที่สนุกสนาน ง่ายๆ และกระชับ

นิดดา หงษ์วิวัฒน์
ผู้เรียบเรียงและเล่าเรื่อง

ทศกัณฐ์ลักนางสีดา

 

นางสำมนักขา น้องสาวของทศกัณฐ์เป็นเมียของชิวหา เมื่อทราบว่า ชิวหาตายด้วยน้ำมือพี่ชายก็ร้องไห้โศกเศร้าและเข้าไปต่อว่า ทศกัณฐ์เองก็เสียใจ ร้องไห้ เสียดายชิวหาผู้เป็นน้องเขยและปลอบโยนนางสำมนักขา

ครั้นเสร็จจากงานศพชิวหาแล้ว นางสำมนักขาก็ออกเดินท่องป่า เพื่อค ลายทุกข์คลายโศก มาพบพระรามก็เกิดหลงรัก เข้าไปถวายตัว พระรามปฏิเสธ นางจึงตบตีนางสีดา พระลักษมณ์จับนาง สำมนักขา ตัดหู ตัดจมูก ตัดมือ ตัดเท้าแล้วปล่อยไป

นางสำมนักขากลับไปฟ้องทศกัณฐ์และกล่าวชมความงามนางสีดา จน ทำให้ทศกัณฐ์หลงรัก ออกอุบายให้มารีศแปลงเป็นกวางทองแสนสวยงาม ให้นาง สีดาอยากได้ และใช้ให้พระรามตามไปจับ เป็นการล่อพระรามออกจากอาศรม และร้องเป็นเสียงพระราม ล่อพระลักษมณ์ออกจากอาศรมอีกองค์

ทศกัณฐ์ได้โอกาสแปลงเป็นฤาษีสุธรรม เกลี้ยกล่อมให้นางสีดาไปเป็น มเหสีทศกัณฐ์ เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จ จึงกลายเป็นร่างเดิม อุ้มนางสีดาขึ้นรถทรงเหาะกลับลงกา

画像5

ทศกัณฐ์แปลงเป็นพระอินทร์ออกรบกับพระรามจนตาย

 

หนุมานขันอาสาทศกัณฐ์ออกศึกสู้รบกับพระลักษมณ์ ให้กองทัพยักษ์ รอท่าอยู่ข้างหลัง แกล้งรบถ่วงเวลาจนมืดค่ำ แล้วจึงต่อปากต่อคำกับพระ ลักษมณ์เพื่อให้เหล่าทหารยักษ์ได้ยิน พระลักษมณ์กริ้วมาก หนุมานอ้างว่ามืด แล้วจึงเลิกทัพกลับ

หนุมานขอให้ทศกัณฐ์ออกรบด้วยและให้รอ ถ้าเห็นเหาะอยู่บนอากาศ แต่เพียงผู้เดียวก็ขอให้เตรียมรับพระรามพระลักษมณ์ได้เลย เมื่อหนุมานเหาะขึ้น ท้องฟ้า องคตก็เอากล่องดวงใจที่ฝังไว้เหาะมาหาหนุมาน จากนั้นก็พากันเฝ้า พระรามและเอากล่องดวงใจถวาย

จากนั้นก็เหาะกลับมา เอากล่องดวงใจเย้ยทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์เสียใจ มาก ยกกองทัพกลับเมือง ทศกัณฐ์สั่งเสียนางมณโฑและนางกาลอัคคีมเหสีรอง บอกว่าออกรบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแต่จะขอตายอย่างชาติกษัตริย์ ดังนั้น ทศกัณฐ์จึงจำแลงร่างเป็นพระอินทร์งามสง่าจนพระรามตะลึง น้าวศรพรหมาสตร์ แต่ไม่อาจยิงได้ หนุมานเตือนพระรามให้ปล่อยศร ศรพรหมาสตร์ต้องทศกัณฐ์ล้ม ลง ร่างกลับคืนดังเดิม

ปากทั้งสิบของทศกัณฐ์พูดกับพิเภก ทั้งต่อว่า ทั้งฝากฝังให้ดูแล บ้านเมือง ดูแลนาง มณโฑ นางกาลอัคคี ให้อยู่ในทศพิธราชธรรมและลาตาย ขอให้ทำศพให้สมพระเกียรติ

หนุมานขยี้ดวงใจของทศกัณฐ์จนแหลกลาญ แล้วทศกัณฐ์ก็สิ้นใจตาย

นางสีดาลุยไฟถวายสัตย์

นางสีดาเตรียมตัวเข้าเฝ้าพระราม พระอินทร์ส่งนางรัมภากับนางอรุณ วดีนำเครื่องอาบน้ำ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ มาถวายและให้ตามเสด็จเป็น เพื่อนนางสีดาเข้าเฝ้าพระราม

พอมาถึง ณ ที่พระรามรอท่าอยู่ นางก็ให้สองนางอัปสรลงมาก่อนแล้ว จึงตามลงมา พระรามกลัวคนจะติฉินนางสีดา ด้วยว่าไปอยู่ในเขตลงกาเป็น เวลานาน จึงแกล้งว่าอยู่สุขสบายที่ในวังของทศกัณฐ์มาหลายปี และยังได้รับ สมบัติที่มีค่ามากมาย ขอให้พระองค์ได้ชมบ้าง

นางสีดาเสียใจ เจ็บปวดราวกับมีสายฟ้าผ่าสักแสนครั้ง เจ็บใจยิ่งกว่า ตอนที่ทศกัณฐ์ลักพาตัวไป นางจึงขอให้พระรามเชิญเทวดามาเป็นสักขีพยาน นางจะทำการลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ

พระรามแผลงศรจันทวาทิตย์เชิญเหล่าเทวดา และแผลงศรอัคนีเป็นไฟ จุดฟืนจนลุกแดง นางสีดาตั้งจิตอธิษฐาน สาบานต่อหน้าเทวาทุกชั้นฟ้า ถ้าแม้น นอกใจพระสวามีแม้เพียง แต่คิด ขอให้พระเพลิงเผาผลาญจนม้วยชีวิต ให้ตกนรกอเวจี ถ้ามิได้เป็นเช่นนั้น ขออย่าได้ร้อนบาทา

ทุกย่างก้าวที่นางสีดาลุยบนกองไฟ ความร้อนมิได้แผ้วพานแม้แต่น้อย และยังมีดอก บัวทิพย์ผุดขึ้นมารองรับฝ่าพระบาทอีกด้วย

( ที่มา : นิดดา หงษ์วิวัฒน์, เล่าเรื่องรามเกียรติ์. 2545.)

คำศัพท์

ทศกัณฐ์ลักนางสีดา

ทศกัณฐ์แปลงเป็นพระอินทร์ออกรบกับพระรามจนตาย

นางสีดาลุยไฟถวายสัตย์

คำอธิบายไวยากรณ์

๑) โดยเฉพาะ 特に。

โดยเฉพาะ + 名詞

๒) แสน, แสนที่จะ 非常に。มากより程度が高い。感動も含まれる表現。

แสนที่จะ + 形容詞

๓)  กลับ 逆に。

主語 + กลับ + 動詞

๔) มีความ...ในการ... ~において~である。

มีความ + 動詞 + ในการ + 動詞

๕) พร้อมกับ...ไปด้วย ~しながら、~する。同時に二つの動作を行なう。

主語 + 第一動詞 + พร้อมกับ + 第二動詞 + ไปด้วย

๖) นั่นเอง ~なのだ(よ)。自己の主張を強める。

文節 + นั่นเอง

๗) อนึ่ง なおかつ。文頭に使う。固い表現で、話し言葉では使用しない。

อนึ่ง + 文節

๘) ไม่อาจ....ได้ ~できない。ไม่สามารถ....ได้と同様。自分に能力がないのではなく、他に障害があってできない。可能のไม่ได้とは別である。

ไม่อาจ + 動詞 + ได้

๙) อย่างไม่ขาดตอน 絶えず~し続ける。อย่างต่อเนื่องともいう。

動詞 + ไม่ขาดตอน

๑๐) เกิด ~に変わった。突然~になった。別の動詞の結果として行なわれる。

เกิด + 動詞

๑๑) ให้ ~させる。使役の表現。

動詞 + ให้ + 被使役者 + 動詞

๑๒) ...แต่เพียง... ~だけ。名詞、代名詞の前に使用する。

動詞 + แต่เพียง + 名詞 + 代名詞

๑๓) ...เองก็... ~自身も。文をつなぐ働き。

主語 + เองก็ + 動詞

๑๔) ผู้ (ที่)... 関係代名詞。人の場合だけに使う。

ผู้ (ที่) + 文節 (修飾文)

๑๕) ครั้น...แล้ว ...ก็... ~の時には。固い表現。เมื่อ...ก็...の方が、一般的である。過去の出来事の順番を示して、文をつなげる。

ครั้น + 文節1 + แล้ว + 文節2 (主語 + ก็ + 動詞)

๑๖) ...ได้เลย ①今すぐに、そのまま~することができる。②今すぐに、~することの許可が与えられる。

主語 + 動詞 + ได้เลย

๑๗) ทั้ง...ทั้ง... ~も、~も。両者は対等であることを強調する。

主語 + ทั้ง + 動詞1 + ทั้ง + 動詞2

๑๘) ด้วยว่า ~の原因で。固い表現。เพราะと同じ意味。

文節1(結果) + ด้วยว่า + 文節2(原因)

๑๙) ยิ่งกว่า 一層~である。มากกว่าの書き言葉。

形容詞 + ยิ่งกว่า + 名詞(時の成句)